ข้าวหอมมะลิ ถือเป็นหนึ่งในพันธุ์ข้าวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไทย และดังไกลไปทั่วโลก ด้วยความหอมที่เป็นธรรมชาติ มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
อีกทั้งยังมีเมล็ดที่หุงแล้วน่ารับประทาน รสชาติอร่อย ร้านอาหารไทยส่วนใหญ่จึงนิยมใช้ ข้าวหอมมะลิ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับอาหาร ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้โภคที่ชื่นชอบทานข้าวที่มีรสชาติดี
แต่ทั้งนี้ ข้าวหอมมะลิ ก็ยังมีการแบ่งชนิดแยกย่อยออกไปอีก ซึ่งแต่ละชนิดก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป โดยชนิดของ ข้าวหอมมะลิ ที่ผู้ประกอบการร้านอาหารควรทำความรู้จักไว้ จะได้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสไตล์อาหารร้านของตัวเอง มีดังต่อไปนี้
1.ข้าวหอมมะลิเก่า 100%
เป็นข้าวหอมมะลิค้างปี ที่ไม่ได้ปลูกและเก็บเกี่ยวในฤดูกาลใหม่ ส่วนใหญ่จะเก็บไว้นานมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป ก่อนจะนำมาขัดสีให้เป็นข้าวสาร ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้เป็นข้าวหอมมะลิใหม่ที่เก็บเกี่ยวต้นฤดู ก็ยังคงกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไว้ได้อยู่
มีความโดดเด่นในเรื่องของเมล็ด ที่จะยาวเรียงสวยและมีความคงตัว หุงขึ้นหม้อ เหมาะสำหรับนำไปทำเป็นข้าวผัด หรือเมนูข้าวอบต่างๆ ตลอดจนนำไปใช้ทำเป็นเมนูข้าวมันไก่ ข้าวหมกไก่ ก็จะได้เมล็ดข้าวที่เรียงตัวสวยน่ารับประทานมากๆ
2.ข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดู
ข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดู คือข้าวที่เก็บเกี่ยวภายใน 3-4 เดือน ของฤดูเก็บเกี่ยวปีที่ปลูก ถือเป็นข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพดีที่สุด มีความหอมเหมือนกับกลิ่นดอกมะลิ
ตัวข้าวจะมีความนิ่มเป็นพิเศษ หุงแล้วมียางข้าว ซึ่งมีความนุ่มกว่าข้าวชนิดอื่นๆ จึงเหมาะที่สุดกับการนำมาหุงเป็นข้าวสวยทานคู่กับเมนูแกงแบบไทยๆ หรือจะนำไปทำเป็นเมนูข้าวต้มก็ดีเช่นกัน
3.ข้าวกล้องหอมมะลิ 100%
เป็นข้าวที่สีเอาเปลือก (แกลบ) ออกโดยที่ยังมีจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว (รำ) อยู่ สีของข้าวกล้องหอมมะลิจะแตกต่างจากข้าวหอมมะลิทั่วไป คือจะมีสีน้ำตาลอ่อน ไม่ใช่สีขาว
ทั้งนี้ ข้าวกล้องหอมมะลิ ถือเป็นข้าวเพื่อสุขภาพ เพราะจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวที่ยังอยู่นั้น มีคุณค่าทางโภชนาการที่มีประโยชน์มาก
โดยเมื่อเทียบกับข้าวปกติที่รับประทานโดยทั่วไปแล้ว ข้าวกล้องมีเส้นใยสูงมากกว่าข้าวขาวมากถึง 3-7 เท่า เลยทีเดียว ทำให้การรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับเส้นใยไปพร้อมๆ กับสารอาหารที่เป็นประโยชน์
โดยข้าวกล้องหอมมะลิ เหมาะหุงทานคู่กับเมนูได้ทุกรูปแบบ ซึ่งด้วยคุณค่าและสีสันที่โดดเด่น จึงช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับทุกเมนูได้มากขึ้น
สามารถทำเป็นเมนูพิเศษเพื่อสุขภาพเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารได้ เพราะปัจจุบันกระแสของการทานอาหารเพื่อสุขภาพนั้นกำลังมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ
ถูกและดี